ไทยพาณิชย์ชี้เอกชนขอกู้ลงทุนเครื่องจักรใหม่แทนค่าแรงพุ่ง05 .. 55 เครือมติชน นางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส รองผู้จัดการ กลุ่มลูกค้าธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ทิศทางการปรับตัวของลูกค้าธุรกิจทุก ขนาดที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้น เริ่มสะท้อนออกมาผ่านการขอสินเชื่อหรือวงเงินเพิ่มเติม เพื่อลงทุนเครื่องจักรใหม่แทนการเพิ่มสภาพคล่องด้านต้นทุน "ลูกค้าส่วนใหญ่ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนค่าแรงได้ แต่ต้องการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่มากกว่าต้องการเสริมสภาพคล่องเพื่อรองรับต้นทุนค่าแรง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าลูกค้าต้องการเสริมประสิทธิภาพการผลิตมากกว่าใช้แรงงานคน แต่ต้องยอมรับว่าลูกค้าส่วนหนึ่งยังมีความจำเป็นต้องใช้แรงงานคนอยู่" ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ประเมินว่าในปีนี้ภาคธุรกิจจะเติบโตสูงและต้องการสินเชื่อมากขึ้น โดยใน 4 เดือนแรก ธนาคารมีสินเชื่อใหม่เข้ามา 20,000 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการรีไฟแนนซ์ประมาณ 60% ของสินเชื่อใหม่ ทั้งนี้ ธนาคารยังคงเป้าการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจทั้งปีไว้ที่ 60,000 ล้านบาท นางสุธารทิพย์กล่าวต่อว่า ธนาคารยังต้องใช้กลยุทธ์เพิ่มลูกค้าใหม่ 3 คน ต่อการดูแลลูกค้าเก่า 1 คน สำหรับธุรกิจขนาดกลางและเล็ก ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่จะใช้กลยุทธ์เพิ่มลูกค้าใหม่ 1 คน ต่อการดูแลลูกค้าเก่า 1 คน เพื่อหนุนให้สินเชื่อโตได้ตามเป้า เพราะการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจเติบโตต่ำ 5% ของพอร์ตที่อยู่ 230,000 ล้านบาท โดยในกรณีลูกค้าเก่าที่ผ่อนชำระต่อเนื่อง 2-3 ปี ธนาคารก็จะเพิ่มวงเงินให้อัตโนมัติ ด้านลูกค้าใหม่ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งจะจัดเป็นแพ็กเกจสินเชื่อให้ ส่วนลูกค้ารีไฟแนนซ์ ธนาคารจะพิจารณาจากยอดธุรกิจไม่เกิน 75 ล้านบาท จะได้สินเชื่อราว 25 ล้านบาท แม้ภาวะต้นทุนธุรกิจสูงขึ้น แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ได้กังวลต่อดอกเบี้ยปัจจุบัน เพราะต้นทุนกู้อยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งโอกาสขยายธุรกิจยังมีอยู่มาก และมีการค้ำประกันจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ส่วนปัจจัยเศรษฐกิจโลกและความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนไม่กระทบ เพราะ 50% รายได้มาจากการค้าขายในประเทศและผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกได้ประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน |