เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 09.30 น. พนักงานบริษัทโฮยากลาสดิสค์ (ประเทศไทย) จำกัด อยู่ที่นิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน และพนักงานบริษัท ริโก้ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด อยู่ที่นิคมอมตะซิตี้ จ.ระยอง ประมาณ 30 คน นำโดยนายชาลี ลอยสูงประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ไปร่วมยื่นหนังสือต่อเอกอัครราชฑูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่อขอให้เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นดำเนินการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบแก้ไขปัญหา เนื่องจากบริษัททั้ง 2 แห่งได้เลิกจ้างคนงานอย่างไม่เป็นธรรม
หนังสือร้องเรียนของสหภาพแรงงานอิเลคทรอนิคส์และอุปกรณ์ไฟฟ้าสัมพันธ์ (สออส.)ระบุว่า บริษัทโฮยากลาสดิสค์ ได้มีการเลิกจ้างพนักงานโรงงาน 2 ประมาณ 1,600 คน โดยจ่ายค่าจ้าง 75% ก่อน แล้วมีหนังสือเลิกจ้างตามไปที่บ้าน ซึ่งในโรงงานดังกล่าวมีสมาชิกสหภาพแรงงานจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการย้ายกรรมการสหภาพแรงงานจำนวน 4 คน ไปรวมกันที่โรงงาน 2 ทำให้มีกรรมการ 19 คนจากทั้งหมด 28 คน ถูกเลิกจ้างไปด้วย โดยบริษัทฯให้เหตุผลว่า ประสบสภาวะขาดทุนและได้รับผลกระทบจากวิกฤติอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา ซึ่ง ก่อนหน้านี้ทางบริษัทมีแผนการปรับลดพนักงานอยู่แล้ว และน้ำก็ไม่ได้ท่วมโรงงานโฮยากลาสดิสค์ จ.ลำพูน แต่อย่างใด ทางบริษัทฯมีโครงการให้พนักงานสมัครใจลาออกและจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย แต่การเลิกจ้างครั้งนี้ สหภาพเห็นว่าไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ไม่ให้มีการเลิกจ้างพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม อีกทั้งการเลิกจ้างในครั้งนี้เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม และละเมิดสิทธิในการรวมตัวของคนงาน ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ILO 87-98 และ แนวปฏิบัติขององค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ OECD ซึ่งทางสหภาพฯ จะดำเนินการต่อสู้ต่อไป
ส่วนบริษัท ริโก้ แมนูแฟคเจอริ่ง มีการเลิกจ้างพนักงานที่เป็นตัวแทนเจรจาข้อเรียกร้องและผู้ที่ลงลายมือชื่อยื่นข้อเรียกร้อง รวมทั้งผู้ก่อตั้งสหภาพแรงงาน ตามข่าวที่ voicelabour นำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว
ภายหลังจากยื่นหนังสือที่สถานทูตญี่ปุ่น พนักงานทั้ง 2 แห่งก็ได้มีการประชุมกันที่พิพิธภัณฑ์แรงงานไทยโดยได้ข้อสรุปดังนี้
1.ให้พนักงานที่ถูกเลิกจ้างไปยื่น ครส. และแจกเอกสารเพื่อประชาสัมพันธ์ให้บุคคลภายนอกรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
2.ขอการสนับสนุนจาก เครือข่ายกู๊ดอิเลคทรอนิคส์ ทั้งสากลและในประเทศไทยรวมทั้งคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย
3.ต้องสร้างแรงกดดันในเชิงสัญลักษณ์เพื่อให้สื่อกระแสหลักมาทำข่าว อาจมีการเดินขบวนไปที่กระทรวงแรงงาน
4.ต้องมีจุดยืนของตนเองและต้องไม่ทิ้งให้กรรมการและสมาชิกที่ทำงานข้างในอยู่อย่างเงียบๆ ต้องส่งข่าวและกระตุ้นให้เขามาร่วมกับคนข้างนอก
ภัชรี ลายลวด นักสื่อสารแรงงาน รายงาน