วันนี้ (18 ตุลาคม 2554) นาย ชาลีลอยสูง ประธานสมานฉันท์แรงงานไทย กล่าวว่า ประเทศไทยประสบอุทกภัยทั่วประเทศทำให้ประชาชนทั่วไปรวมถึงพี่น้องผู้ใช้แรงงานที่ทำงานอยู่ตามนิคมอุตสาหกรรมต่างๆเดือดร้อนตามกันไปในวันนี้ความเป็นอยู่เป็นอย่างไงไม่มีใครทราบ หลังจากที่นิคมอุตสาหกรรมเช่น นิคมฯสหรัตนฯ นิคมฯโรจนะ นิคมฯไฮเทค และอื่นๆได้ประสบอุทกภัยน้ำเข้าท่วมโรงงานนายจ้างได้ให้พนักงานหยุดงานนั้น ตนเองขอแสดงความเสียใจด้วยกับการที่ไม่สามารถช่วยกันป้องกันได้ แม้ว่าพี่น้องผู้ใช้แรงงานจะช่วยกันอย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันปากท้อง
จากเหตุการณ์ดังกล่าวกลับมีนายจ้างบางโรงานฉวยโอกาสจ่ายค่าจ้างไม่เต็มตามที่กฎหมายกำหนด เพราะอ้างว่า บริษัทไม่สามารถทำงานได้จะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย แต่ในความเห็น ตนอยากให้นายจ้างมองอย่างนี้ว่า แรงงานคือผู้ที่ถือหุ้นคนหนึ่งในบริษัท และได้รวมแรงร่วมใจในการที่ปกป้องโรงงานอย่างเต็มที่โดยเชื่อว่า โรงงานนี้เป็นโรงงานของเขาด้วยเช่นกัน แรงงานได้ทุ้มเททั้งกายใจในการช่วยกันขนาดนี้นายจ้างยังจะใจดำกับเขาอีกหรือ หากพูดกันแล้วนายจ้างมีผลกำไรมาตลอด พอประสบปัญหา อย่าทิ้งให้ลูกจ้างต้องเดือดร้อนเพียงลำพังเลย อย่าให้ถึงกับสิ้นเนื้อสิ้นตัวเพราะไม่ได้เตรียมข้าวของหนีน้ำเพราะมั่วช่วยโรงงาน ยังต้องไม่มีค่าจ้าง แล้วซ้ำร้ายต้องตกงาน ยังไงให้เลี้ยงแรงงานไว้นี้คือการซื้อใจกัน
วันนี้ (18 ตุลาคม 2554) ขอให้นายจ้างชะลอการใช้ ม. 75 ไปก่อน เนื่องจากลูกจ้างไม่มีเงินทุน แต่นายจ้างยังพอมีเงินกองทุนอยู่ ลูกจ้างไม่มีรายได้จะนำเงินที่ไหนมาใช้ ที่มีกินมีใช้อยู่ก่อนหน้านี้ก็ต้องอาศัยการทำงานล่วงเวลา (O.T.) ทำให้ลูกจ้างดำเนินชีวิตอยู่ได้ ลูกจ้างต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายสูงขึ้น จากสินค้าราคแพง ที่อยู่อาศัย ยานพาหนะที่ต้องจมน้ำ และต้องซ่อมแซมบำรุงรักษาหลังน้ำท่วมเช่นกัน รวมทั้งภาระเงินที่ต้องส่งไปบ้านที่ต่างจังหวัดและอื่นๆอีกมากมาย ทำให้มีผลกระทบกับความเป็นอยู่ จึงอยากให้นายจ้างใช้หลักแรงงานสัมพันธ์ ดูแลลูกจ้างของท่านไปก่อนซักระยะหนึ่งก่อน เพื่อประคับประคองให้ลูกจ้างใช้ชีวิตอยู่ได้ ก่อนที่จะเข้ามาทำงานผลิตสินค้าต่อสู้กับออร์เดอร์คำสั่งสินค้าที่จะมีเข้ามาหลังฟื้นฟู หลังจากนั้นมาว่า กันจะช่วยกันฟื้นฟูปรับปรุงโรงงานหลังน้ำลดอย่างไร แล้วมาคุยกัน ผมว่าลูกจ้างของท่านพร้อมที่จะช่วยเหลือท่านหลังน้ำลดเต็มทีอยู่แล้ว
อีกเรื่องหนึ่งฝากถึงผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมต่างๆที่ยังไม่ประสบเหตุน้ำท่วมขอให้ท่านเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ ในการที่จะป้องกันภัยจากน้ำ ระบบประกันมีความสำคัญมากในการที่จะชดเชยความเสียหายของนายจ้าง ส่วสนลูกจ้างทุกคน เราก็จะเห็นว่าพยายามที่จะช่วยกรองทรายขนทราย
นาย ศรณ์พงษ์ ชูอาตม์ ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมบางพลี ได้ให้สัมภาษณ์กับนักสื่อสารศูนย์สมุทรปราการว่า นิคมอุตสาหกรรมบางพลีมีโรงงานทั้งหมด 130โรงงาน พนักงานประมาณ 25,000 คน เงินลงทุนประมาณ 50,000 ล้านบาท วันนี้ข่าวลือ ทำให้ผู้ประกอบการในนิคมฯตกใจและสับสน เตรียมป้องกันโรงงานและทรัพย์สินของตัวเอง วันนี้สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมบางพลีได้ตั้งวอร์รูมทำงานขึ้นที่สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมบางพลี เพื่อประมวลสถานการณ์น้ำที่อยู่รอบๆนิคมอุตสาหกรรมตลอด 24 ชั่วโมง เช่น คลองสำโรง คลองเกลือ คลองเจริญราษฎร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม จะได้ไม่สับสน วันนี้ระดับน้ำในคลองต่างยังอยู่ต่ำกว่าถนนยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนแผนการแจ้งเตือน ทางเราถ้าได้รับการแจ้งเตือนจากนิคมอุตสาหกรรมบางชัน นิคมอุตสาหกรรมลาดกะบัง ซึ่งเป็นหน้าด่านว่าระดับน้ำใน 2นิคมฯวิกฤตแล้ว ทางศูนย์บางพลีจะทำการแจ้งเตือนผู้ประกอบการผ่านทาง SMS ทราบ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวป้องและอพยพลูกจ้างในสถานประกอบการ ท่านสามรถติดต่อสอบถามศูนย์เฝ้าระวังได้ที่เบอร์ 02-3152811 และเบอร์ 02-7052331 ตลอด 24ชั่วโมง
ประสิทธิ์ วิจิตรไพบูลย์ นักสื่อสารแรงงาน ศูนย์ข่าวสมุทรปราการ รายงาน