เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2554 เวลา 17.00 น.ผู้ใช้แรงงานในจังหวัดสระบุรีและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่า 1,000 คน ได้รวมตัวเดินขบวนยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผ่าน ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ทวงถามนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทตามที่ได้ประกาศหาเสียงไว้ โดยมีการตั้งเวทีปราศรัยนโยบายของรัฐบาลจากผู้นำแรงงานต่างๆกว่า 20 คน ท่ามกลางสายฝนที่ตกมาอย่างหนัก แต่คนงานทั้งหมดก็ยังยืนหยัดต่อสู้เรียกร้องอย่างไม่ย่อท้อ กระทั่งในเวลา 20.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีจึงได้มอบหมายให้นายทรงศักดิ์ รูปแก้ว แรงงานจังหวัดสระบุรี ออกมารับหนังสือจากผู้ใช้แรงงาน
นางมะลิ แก่นสาร คนงานโรงงานเย็บชุดชั้นใน กล่าวว่า ตนทำงานมา 19 ปี ได้ค่าจ้างเพียง 230 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพเพราะค่าใช้จ่ายเยอะมาก ข้าวของต่างๆก็มีแต่จะแพงขึ้น ก็หวังว่าหากรัฐบาลปรับค่าจ้าง 300 บาทตามที่ได้ประกาศหาเสียงไว้ แต่เมื่อทราบว่าจะปรับเพียง 7 จังหวัดก็รู้สึกน้อยใจและผิดหวังเป็นอย่างมาก วันนี้จึงมาเรียกร้องไปยังรัฐบาลเพื่อให้เห็นใจคนงานบ้าง
นายบุญสม ทาวิจิตร ประธานกลุ่มผู้ใช้แรงงานสระบุรี กล่าวว่า วันนี้ถึงแม้ว่าฝนจะตกอย่างหนักแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความปรารถนาของคนงานในค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันนั้นลดลงเลย จะเห็นได้ว่า การที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาทเท่ากันทั่วประเทศนั้น เป็นที่ถูกใจแรงงานอย่างมาก จึงได้เทคะแนนเสียงให้ แต่เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วกลับจะปรับค่าจ้างขั้นต่ำเพียง 7 จังหวัดนำร่องโดยไม่มีจังหวัดสระบุรีด้วย ดังนั้น รัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องรับผิดชอบและปฎิบัติตามสัญญาที่ได้หาเสียงไว้ให้เป็นรูปธรรม
.ขณะนี้กระทรวงแรงงานซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับค่าจ้างขั้นต่ำ มีการประชุมปรึกษาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อทุกกระทรวงทุกวันว่าจะหาแนวทางอย่างไรที่จะให้เกิดความเรียบร้อยทั้งระบบในภาพรวมทั้งนายจ้างและลูกจ้างในการปรับขึ้นค่าจ้าง ดังนั้นจึงต้องมีความรอบครอบในการพิจารณา แต่อย่างไรก็ตามข้อเรียกร้องในวันนี้ก็จะส่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดก็จะทำหนังสือไปยังกระทรวงแรงงานเพื่อดำเนินการต่อไป นายทรงศักดิ์ รูปแก้ว แรงงานจังหวัดกล่าว
พรนาราย ทุยยะค่าย นักสื่อสารแรงงาน พื้นที่สระบุรี รายงาน