Thai / English

ความหวังก่อนเลือกตั้งกับค่าจ้าง 300 บาท


นักสื่อสารแรงงาน ศูนย์ข่าวอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่
16 .. 54
http://voicelabour.org/?p=6454

จากการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา มีหลายพรรคการเองที่ชูนโยบายหาเสียงด้านแรงงาน เช่น การปรับขึ้นค่าจ้างให้กับแรงงาน ทำให้คนงานเกิดการตื่นตัวออกไปใช้สิทธิการเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก เพราะหวังว่า พรรคการเมืองที่ตนเลือกจะทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ พรรคเพื่อไทยได้ชัยชนะการเลือกตั้งเพราะมีนโยบายซื้อใจคนงานคือปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ทันทีที่ได้เป็นรัฐบาล

ทำให้หลายฝ่ายจับตาดู ว่าใครจะมาเป็นเจ้ากระทรวงแรงงาน แต่ความหวังของคนงานเริ่มทำท่าว่าจะเป็นเพียงแค่ความฝัน หลังจากการประกาศนโยบายเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 ณ อาคารรัฐสภา โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรับมนตรี เป็นผู้อ่านนโยบายด้านแรงงานในข้อ 1.8.2 ว่า “แรงงานต้องมีรายได้เป็นวันละไม่น้อยกว่า 300 บาท” ซึ่งเป็นการบิดเบือนคำมั่นสัญญาที่หาเสียงไว้ ส่อแววว่า จะเป็นเพียงคำหวานตอนหาเสียงไว้ พอได้ฟังแล้วนึกถึงคำพังเพยที่ว่า “ ลิ้นไม่มีกระดูก” มันเป็นอย่างนี้นี่เองสามารถพูดกลับไปกลับมา แล้วอย่างนี้ประชาชนคนจนๆ จะไปหวังพึ่งใครได้ เมื่อมีกระแสข่าวจากแรงกดดันของขบวนการแรงงานที่ออกมาร้องทัก เรื่องนโยบายการปรับขึ้นค่าจ้าง ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ประกาสจะปรับค่าจ้างขึ้นเพียง 7 จังหวัดเท่านั้น

จากการสำรวจสอบถามคนงาน

1.มีความเห็นอย่างกับการแถลงนโยบายรัฐบาล เรื่องการปรับค่าจ้าง

Ø หาเสียงไว้กับประชาชนอย่างไรก็ควรจะปฏิบัติตามที่ได้พูดไว้

Ø มีการบิดเบือนคำพูด มาเป็นแรงงานมีรายได้เป็นวันละไม่น้อยกว่า 300 บาท

Ø จะเป็นวิกฤตของแรงงานไทยหรือไม่ ถ้าจ้างแรงงานไทย นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งแรงงานข้ามชาติไม่ต้องจ่ายถึง 300 บาท คนงานไทยจะมีงานทำอยู่หรือเปล่า

Ø รัฐบาลต้องควบคุมราคาสินค้า ค่าแรงยังไม่มีการปรับขึ้นแต่ของกินของใช้ปรับขึ้นหมดแล้วในตอนนี้ เช่น เนื้อหมู จากราคา กิโลกรัมละ 120 บาท ตอนนี้เป็น 160 บาท

Ø ราคาน้ำมันที่มีปรับลดราคาในระยะสั้น 6 เดือน

Ø รัฐบาลไม่มีการสนับสนุนให้คนงานมีความรู้เรื่องสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน

Ø กระทรวงแรงงานได้รัฐมนตรีที่มาดำรงตำแหน่งไม่เคยมีบทบาทในด้านแรงาน ไม่รู้ปัญหาของแรงงาน มาก่อน