Thai / English

สหภาพฯกฟผ.ค้านรีดส่งเงินเพิ่ม5%

ศิริชัยประธานสหภาพฯกฟผ.ยื่นหนังสือถึงกรณ์คัดค้านการนำส่งเงินเพิ่มเป็น 45% เพื่อนำไปใช้ในโครงการอุ้มคนจน

28 .. 54
โพสต์ทูเดย์

นายศิริชัย ไม้งาม ประธาน ประธาน สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) เข้ายื่นหนังสือถึง นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง คัดค้านการขอเพิ่มเงินส่งรัฐจาก 40% เป็น 45% ในปีงบประมาณ 2554 เพื่อนำไปเป็นรายได้ของรัฐตามนโยบายประชาวิวัฒน์ของรัฐบาลชุดปัจจุบัน

"สร.กฟผ. เห็นว่าการขอเงินเพิ่มของกระทรวงการคลังไม่เป็นธรรมต่อ กฟผ. และพนักงานที่ปฏิบัติงานให้ กฟผ. และขอคัดค้านการขอเพิ่มเงินนำส่งรัฐจำนวน 45% และขอให้ยึดหลักเกณฑ์นำส่งรัฐในอัตราเดิมต่อไป"นายศิริชัยกล่าว

ทั้งนี้ สร.กฟผ. ให้เหตุผลการคัดค้านว่า 1.การขอเพิ่มเงินนำส่งอีก 5% เป็นการทำผิดหลักเกณฑ์เดิมที่เคยตกลงไว้กับ กฟผ. ที่ให้นำส่ง 40% นอกจากกรณีจำเป็นเร่งด่วน และ กฟผ. มีความสามารถพอที่จะให้เพิ่มได้เป็นครั้งๆ ไป ซึ่งเดิม กฟผ. เคยนำส่งแค่ 30% แต่ต่อมาต้องนำส่งเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ

2.ปัจจุบัน กฟผ. มีภาระที่จะต้องชำระเงินกู้และดอกเบี้ย เพื่อนำมาลงทุนในโครงการต่างๆ ในการขยายกำลังผลิต และก่อสร้างระบบสายส่ง เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าในอนาคต ขณะที่การสรุปรายได้ประมาณการของ กฟผ. ลดลง เนื่องจากยอดขายไฟฟ้าลดลง รวมถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ปรับตัวลดลง และสภาพอากาศที่มีฝนตกอย่างต่อเนืาองในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ทำให้ยอดขายไฟฟ้าลดลงจากปีที่ผ่านมาดังนั้นหากจะนำส่งเงินเพิ่ม กฟผ. จะมีปัญหาสภาพคล่องแน่นอน

3. ภาระที่ กฟผ. แบกรับค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ตามที่รัฐบาลขอความร่วมมือให้ยืดเวลาเก็บออกไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล ทำให้ กฟผ. ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ และปัจจุบัน กฟผ. ยังไม่สามารถปรับขึ้นค่าไฟฟ้าได้ ทั้งที่ต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

4.สร.กฟผ. เห็นว่ารัฐบาลควรจะรักษาวินัยการเงินการคลังในการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศ โดยยึดประโยชน์สูงสุด และมีการตรวจสอบการใช้เงินอย่างเคร่งครัด ไม่ให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นมากกว่าจะมาบีบบังคับจากรัรฐวิสาหกิจ เพราะสุดท้ายก็นำไปสู่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่จะเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวม และ 5.ปัจจุบันการเสียภาษีของพนักงาน กฟผ. ในอัตราภาษีก้าวหน้า เพื่อให้รัฐนำไปใช้พัฒนาประเทศ ถือว่าพนักงานแบกรับมากอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่ไม่มีระบบบำเหน็จบำนาญเหมือนข้าราชการ