เมื่อคืนวานนี้ (27 ม.ค. 54) คนงานแม็คซิสแพ็คกะเป๋านัดกันเตรียมเคลื่อนพลหวังให้ผู้มีอำนาจทางการเมือง สั่งการให้นายจ้างรับลูกจ้างกลับเข้าไปทำงาน และเข้าสู่แรงงานสัมพันธ์ที่ดีตามนโยบายของรัฐ ด้วยความรู้สึกไม่อยากที่จะทุบหม้อข้าวตัวเอง แต่ต้องการการจ้างงานที่มีความเป็นธรรม เกิดสิทธิอันชอบธรรมของลูกจ้างนั้น แต่นายจ้างไม่ต้องจ่ายต้นทุนเพิ่ม นายจ้างยังหวังการจ้างงานแรงงานราคาถูก นำแรงงานข้ามชาติทำงานแทน
หนึ่งในแรงงานข้ามคนจีนที่เข้าร่วมเรียกร้องกับสหภาพแรงงาน อายุ 36 ปี กล่าวว่า ปู่ย่าตายายเป็นคนจีนอพยพเข้ามาอยู่ในเมืองไทยตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 อาศัยอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ตนเองเข้ามาทำงานที่บริษัทฯแม็กซิสได้ 5 ปีแล้ว อยู่แผนก เปลี่ยนพิมพ์ (อัดดอกยาง) รู้สึกแค้น ทำงานมานานแล้ว ขออะไรไปก็ไม่ได้ ถ้าเราไม่สู้เป็นไปไม่ได้ที่นายจ้างจะให้เรามาง่ายๆก็ต้องสู้ ตอนนี้คงต้องทำทุกอย่างเพราะไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
ให้สัมภาษณ์กับนักสื่อสารแรงงานต่อกรณีการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าไม่ เคยเชื่อใจเจ้าหน้าที่ มีอะไรหลายอย่างที่เจ้าหน้าที่ทำมีเงื่อนงำ เหมื่อนเข้าข้างนายจ้าง ถึงแม้ว่าผมจะเป็นคนจีนผมก็จะสู้จนถึงที่สุด ขอให้คนงานไทยที่เข้าไปทำงานอยู่ตอนนี้ออกมาเรียกร้องสิทธิของตัวเองด้วยกัน
นายสราวุธ เมียดประโคน อายุ 30 ปี ไม่มีครอบครัว กล่าวว่า เป็นห่วงการทำงาน ไม่รู้จะเข้าทำงานตอนไหน เจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานช้ามาก รับเรื่องไปแล้วก็ได้แต่รับไปไม่ทำอะไร เรื่องที่รับไปไม่มีความคืบหน้า ผมอยากให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทำหน้าที่ของตน รู้จักหน้าที่ของตนเองว่า ต้องรับใช้ประชาชน คนงานหวังว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐคงต้องสร้างความกระจ่างและช่วยเหลือ แรงงานได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้
ยุทธศาสตร์การต่อสู้ รูปแบบใหม่ของกระบวนการแรงงาน
ทั้งนี้ในวันเดียวกัน(27 ม.ค. 54) สมาพันธ์แรงงานเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเลคทรอนิกส์ ยานยนต์และโลหะแห่งประเทศไทย (TEAM)โดย นาย ชาลี ลอยสูง ประธาน ประชุมวาระด่วน เพื่อช่วยเหลือคนงานบริษัท ฟูจิสึที่แหลมฉบังกรณีที่นายจ้างปิดงานจากกรณีที่พิพาทแรงงาน คนงานบริษัทแม๊สชิส ที่นายจ้างปิดงานกรณีเดียวกัน และคนงานบริษัทพีชีบีเซ็นเตอร์ จำกัดปิดกิจการหลังไฟไหม้โรงงานโดยไม่จ่ายค่าชดเชย ชึ่งคนงานทั้งสามบริษัทเป็นสมาชิกของ TEAM การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิแรงงานให้เห็นอย่างเด่นชัด เป้าหมายเพื่อล้มล้างสหภาพแรงงาน จากการต่อสู้ของพี่น้องมีการยื่นหนังสือต่อหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่ได้รับการแก็ไข แม้แต่นายกรัฐมนตรีก็ยื่นมาแล้ว ก็ยังไม่มีท่าทียอมรับจากนายจ้าง
ยุทธศาสตร์ใหม่นี้คงร่วมภาคีกับพี่น้อง สมานฉันฑ์แรงงานไทย สรส. กลุ่มภาคฯ กลุ่มย่าน และสหพันธ์แรงงานต่างๆ ที่ ทีมเป็นสมาชิกอยู่ โดยให้ทางผู้นำแรงงานไปทำความเข้าใจกับสมาชิกฯ เตรียมระดมทุน และจะขับเคลื่อนขบวนเข้าสู่กรุงเทพฯ ในการเคลื่อนขบวนครั้งนี้จะไม่ทำให้พี่น้องทุกภาคส่วนเดือดร้อน การทำงานจะประสานพี่น้องแรงงานภาคีต่างๆ ทั้งในด้านเชิงนโยบาย กับภาคสนามไปพร้อมๆกัน เป้าหมายแรกคงไปร้องเรียนที่สถานทูตของแต่ละประเทศ ที่บริษัทมาลงทุน ทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงแรงงาน โดย TEAM จะนำเรื่องนี้เสนอกับสมานฉันฑ์แรงงานไทย
อัยยลักษ์ เหล็กสุข และธีรวุฒิ เบญมาตย์ นักสื่อสารแรงงานศูนย์แรงงานชลบุรี-ระยอง รายงาน