ขุนคลังสะกิดนายจ้างทำใจ ค่าจ้างขั้นต่ำอัตราใหม่ 1 ม.ค.รมว.คลัง หนุนขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ย้ำผู้ประกอบการต้องยอมรับอย่าห่วงเงินเฟ้อ14 .. 53 โพสต์ทูเดย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า ค่าแรงขั้นต่ำที่จะเริ่มประกาศใช้ในเดือน ม.ค. ปี 2554 โดยมีการเพิ่มเฉลี่ยทั่วประเทศ 817 บาท ว่า เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการต้องยอมรับ เพราะถือตามความเป็นธรรมที่ต้องมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำ ตามความจำเป็นของประชาชน เป็นเรื่องที่สังคมปฏิเสธไม่ได้ รวมทั้งเป็นการดำเนินการที่สอดรับกับเรื่องการจ่ายภาษีนิติบุคคลที่เพิ่มสูง ขึ้น สะท้อนว่าภาคธุรกิจก็มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับผลกระทบของผู้ประกอบการ และเรื่องของผลกระทบอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะสูงขึ้น ถือเป็นปัญหาที่ต้องหาทางแก้ไขกันต่อไป รมว.คลัง กล่าวอีกว่า ขณะนี้ค่าแรงขั้นต่ำของผู้ใช้แรงงานต่ำกว่ารายได้เฉลี่ยที่เหมาะสม จึงเป็นเรื่องที่สังคมควรให้ความร่วมมือ และผู้ประกอบการก็ไม่ควรปฏิเสธ แต่รัฐจะหาช่องทางช่วยเหลือ และดูแลเรื่องเงินเฟ้อต่อไป ด้าน น.ส.วิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในอัตรา 817 บาท จะไม่กระทบกับการเลิกจ้าง เพราะที่ผ่านมาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อมาโดยตลอด ค่า แรงเป็นต้นทุนที่มีสัดส่วนต่ำเมื่อเทียบกับต้นทุนการผลิตอื่นๆ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำครั้งนี้ยังไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพจริง ที่จะทำให้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ภาคธุรกิจไม่ควรใช้มาตรการย้ายฐานการผลิต และการเลิกจ้างมาเป็นข้ออ้างในการไม่ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ น.ส.วิไลวรรณ กล่าว ขณะที่นายบัณฑิต ธนชัยเศรษฐวุฒิ นักวิจัยด้านสิทธิแรงงาน มูลนิธิอารมณ์ พงศ์พงัน เห็นว่า การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ยังไม่สอดคล้องกับสภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งหากดูจากหลักเกณฑ์ค่าจ้างตามมาตรฐานสากล การกำหนดค่าจ้างจะต้องขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย คือ ความสามารถในการจ่ายของนายจ้าง เมื่อเทียบกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้น ความจำเป็นในการครองชีพของแรงงาน เมื่อเทียบกับดัชนีผู้บริโภค รวมถึงอัตราเงินเฟ้อ ระดับค่าจ้างของแรงงานอื่นๆ ในสังคม คำนวณค่าจ้างขั้นต่ำของไทยยังคงอิงอยู่กับความสามารถในการจ่ายของนายจ้าง เป็นปัจจัยหลัก ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 14 ธ.ค. ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะมีการพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำก่อนประกาศในเดือน ม.ค. ตามที่คณะกรรมการค่าจ้างพิจารณาแล้วเสร็จ เพื่อประกาศใช้ในวันที่ 1 ม.ค. ปีหน้า |
