Thai / English

สหภาพฯ ไทยพาณิชย์ ร่อนจดหมายถึง ธปท.-กรมคุ้มครองแรงงาน กรณีธนาคารตั้งบริษัททวงหนี้



10 .. 52
ประชาไท

สหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยให้ตรวจสอบการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารระดับสูงที่ธนาคารแต่งตั้งให้เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทติดตามทวงหนี้ และทำจดหมายถึงอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเข้ามาตรวจสอบเรื่องการโอนย้ายพนักงาน

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 52 ที่ผ่านมาสหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อขอให้ตรวจสอบการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารระดับสูงที่ธนาคารแต่งตั้งให้เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทติดตามทวงหนี้

โดยในจดหมายเปิดผนึกได้ระบุว่า ตามที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)ได้มีนโยบายตั้งบริษัทติดตามทวงหนี้ชื่อบริษัท พาณิชย์ธนพัฒน์จำกัด และได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ไทยพาณิชย์ พลัส ซึ่งธนาคารได้แต่งตั้งนางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ ไปเป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทน ทางสหภาพฯ ตั้งข้อสังเกตว่าการที่นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของธนาคารไปดำรงตำแหน่ง ผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทนั้นขัดต่อข้อบังคับของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือไม่ สหภาพแรงงานมีความห่วงใยผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับธนาคารว่าอนาคตอาจจะเกิดความไม่โปร่งใสในการบริหารงานได้ (ดู: สร.ธทพ.25/2552 ขอให้ตรวจสอบการดำรงตำแหน่งของผู้บริหาร)

จากนั้นในวันที่ 7 ส.ค. 52 ที่ผ่านมาสหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเพื่อขอให้เข้ามาตรวจแรงงานในบริษัท

โดยในจดหมายเปิดผนึกได้ระบุว่าตามที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) ได้ทำการโอนย้ายพนักงานบริษัท ไทยพาณิชย์ลิสซิ่ง มาปฏิบัติงานกับธนาคารตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2551 ปัจจุบันนี้ได้ปฏิบัติงานกับธนาคารมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ธนาคารยังไม่พิจารณาบรรจุให้เป็นพนักงานประจำ ปัจจุบันนี้ได้ทำงานกับธนาคารโดยธนาคารได้ต่อสัญญาจ้างเป็นรายปี 1 ปี และลดลงเหลือ 6 เดือน คือ 1 พฤษภาคม – 31 ตุลาคม 2552 และสวัสดิการที่ได้รับจากธนาคารก็ไม่เท่าที่เดิม ขอเรียนว่า สหภาพแรงงานได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงคุณกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ขอให้พิจารณาบรรจุพนักงานดังกล่าวเป็นพนักงานประจำของธนาคาร และได้ทำจดหมายเปิดผนึกทวงถามเรื่องดังกล่าวแล้วแต่ก็ไม่รับคำตอบใดๆ การที่ธนาคารไม่บรรจุให้เป็นพนักงานประจำและมีการลดการต่อสัญญาจ้างจาก 1 ปี เป็น 6 เดือน และสวัสดิการก็ได้รับไม่เท่าเดิม ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างที่ไม่เป็นคุณ ขัดต่อมาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 และ พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 13 จึงขอให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเข้ามาตรวจสอบ (ดู: สร.ธทพ.29/2552 ขอให้เข้ามาตรวจแรงงาน)

“อานันท์” ตอบสหภาพฯ ให้ฝ่ายจัดการและสหภาพฯ ทำความเข้าใจกันเอง

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 52 ที่ผ่านมานายอานันท์ ปันยารชุน นายกกรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ส่งจดหมายถึงสหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ โดยได้นายอานันท์ระบุว่าได้รับทราบเรื่องตามจดหมายและเอกสารประกอบแล้ว และได้มอบหมายให้ฝ่ายจัดการของธนาคารดำเนินการปรับความเข้าใจกับทางพนักงานและสหภาพแรงงานไทยพาณิชย์ (ดู: จดหมายจากนายอานันท์ ปันยารชุน ถึงประธานสหภาพแรงงานไทยพาณิชย์)

ออกแถลงการณ์ชลอการชุมนุมไปก่อน

จากนั้นในวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมาสหภาพแรงงานไทยพาณิชย์ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 6 เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในการเคลื่อนไหวของสหภาพฯ

แถลงการณ์ 6/2552

เพื่อนสมาชิกสหภาพแรงงานและพนักงานทุกท่าน

ตามที่ธนาคารได้มีนโยบายตั้งบริษัทติดตามทวงหนี้และจะยุบเลิกหน่วยงานเพื่อให้ พนักงานไปปฏิบัติงานกับบริษัทที่ตั้งขึ้นนั้น กรณียุบเลิกหน่วยงานสหภาพแรงงานได้เรียกร้องให้ธนาคารปฏิบัติตามข้อตกลง เกี่ยวกับสภาพการจ้างที่ธนาคารได้ทำร่วมกับสหภาพแรงงานเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2542 และเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2552 สหภาพแรงงานและสมาชิกได้ไปที่บ้านท่านอานันท์ ปันยารชุน นายกกรรมการธนาคาร เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกให้ท่านพิจารณายกเลิกนโยบายดังกล่าว เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2552 ท่านได้ตอบสหภาพแรงงานโดยสรุปว่าเรื่องดังกล่าวได้มอบหมายให้ฝ่ายจัดการของ ธนาคารดำเนินการปรับความเข้าใจกับทางพนักงานและสหภาพแรงงานและเชื่อว่า เรื่องทั้งหลายจะคลี่คลายไปในทางที่ดีและเกิดความเข้าใจกันในที่สุด ท่านอานันท์อยากให้เรื่องทั้งหลายคลี่คลาย แต่ยังมีผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่บางคน ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น โดยได้สั่งห้ามไม่ให้พนักงานที่สาขาชิดลมมาร่วมชุมนุมฟังคำชี้แจงของสหภาพใน วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 2552 อยากจะบอกท่านว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการขัดคำสั่งท่านอานันท์ และขัดขวางการดำเนินการของสหภาพแรงงานมีความผิดตามกฎหมาย จึงขอให้ท่านยุติพฤติกรรมดังกล่าวทันที

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2552 ธนาคารได้ออกประกาศความคืบหน้าล่าสุดกรณีการจัดตั้งบริษัทติดตามหนี้ลงใน Intranetของ ธนาคารว่าคณะผู้บริหารธนาคารได้รับทราบถึงข้อกังวลใจของพนักงาน และมิได้นิ่งนอนใจต่อกรณีที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาธนาคารได้มีการพูดคุยกับพนักงานในข้อกังวลใจ และได้มีการปรับปรุงเงื่อนไขการโอนย้ายและการจ้างงานให้ชัดเจนยิ่งขึ้นตาม ข้อเสนอแนะของพนักงาน สหภาพขอเรียนว่า ที่พนักงานกังวลใจก็เพราะได้ฟังคำพูดจากท่าน และพนักงานไม่ได้เสนอเงื่อนไขใดๆให้ธนาคารนำไปปรับปรุงเลย ใน ส่วนที่ธนาคารเปิดโอกาสให้พนักงานได้พิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบ โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา ทั้งนี้ หากยังมีพนักงานที่มีความไม่สบายใจต่อกรณีดังกล่าว ผู้บริหารธนาคารยินดีให้ข้อมูลเพิ่มเติมและพูดคุยกับพนักงาน จนกว่าจะเกิดความเข้าใจที่ดีต่อกัน เนื่องจากพนักงานทุกคนเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวเดียวกันและยังมีความ เป็น “ไทยพาณิชย์” เช่นเดิม

สหภาพขอเรียนว่า เมื่อธนาคารเปิดโอกาสให้พนักงานพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบโดยไม่จำกัดเรื่องเวลา ก็ ขึ้นอยู่กับพนักงานว่าจะตัดสินใจอย่างไร ถ้าสมาชิกสหภาพและพนักงานท่านใดพิจารณาว่าไปอยู่บริษัทแล้วมีความก้าวหน้า และได้สวัสดิการเพิ่มแล้วสมัครใจไปสหภาพก็ไม่คัดค้าน แต่ไปแล้วความเป็นสมาชิกสหภาพจะสิ้นสุดลง หากเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตสหภาพจะช่วยเหลืออะไรท่านไม่ได้ ในส่วนท่านที่ไม่ไปบริษัทก็ไม่ต้องเซ็นเอกสารใดๆที่ฝ่ายจัดการหรือผู้บังคับ บัญชาของท่านนำมาให้เซ็น เพราะหากธนาคารจะโอนย้ายท่านไปทำงานกับนายจ้างอื่นก็จะต้องได้รับความยินยอม จากท่านก่อน

เพื่อนสมาชิกและพนักงานทุกท่าน เมื่อธนาคารเลื่อนเวลาออกไปโดยไม่มีข้อจำกัด สหภาพแรงงานก็จะชลอการชุมนุมออกไปเช่นกัน แต่หากธนาคารไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง หรือมีการข่มขู่สมาชิกสหภาพขอให้สมาชิกแจ้งมายังสหภาพ สหภาพ แรงงานจะเข้าไปปกป้องคุ้มครองสิทธิพี่น้องทุกคนทันที ขอให้ทุกท่านจงเชื่อมั่นสหภาพแรงงานองค์กรตัวแทนของท่านว่าจะไม่ทอดทิ้งท่าน เพราะสหภาพก่อตั้งขึ้นมาเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์เกี่ยวกับสภาพการจ้าง และส่งเสริมความพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง และระหว่างลูกจ้างด้วยกัน หากพนักงานอยากให้สหภาพทำหน้าที่ตัวแทนของท่านได้อย่างเข้มแข็งท่านก็อย่า ทอดทิ้งสหภาพ จงร่วมใจกันสมัครเป็นสมาชิกกันให้มากๆเพื่อให้สหภาพได้คอยช่วยเหลือคุ้มครอง ทุกท่านตลอดไป

ความสำเร็จในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากใครคนใดคนหนึ่ง แต่เกิดจากพลังความสามัคคีของพี่น้องทุกคน