Thai / English

"ได๋ ไดอาน่า"พบรมว.แรงงาน รณรงค์ขอสิทธิให้ผู้ลี้ภัย



03 .. 52
เครือมติชน

นายวีรวิชญ์ เธียรชัยนันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการเพื่อผู้ลี้ภัยและผู้อพยพแห่งสหรัฐอเมริกา (ยูเอสซีอาร์ไอ) ประจำประเทศไทย และทีมงานได้นำนางสาว สุพรรณี หรือ “น้องได๋” ไดอาน่า จงจินตนาการเข้าเยี่ยมพบ นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน เพื่อเข้าทำการคารวะและแนะนำตัวในฐานะทูตผู้ลี้ภัยคนแรกของประเทศไทย พร้อมกับขอคำแนะนำจากนายไพฑูรย์ แก้วทองเกี่ยวกับการให้สิทธิผู้ลี้ภัยได้ทำงานอย่างถูกกฎหมาย เช่นเดียวกับแรงงานต่างด้าวที่ได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกกฏหมาย

นางสาวสุพรรณี หรือ ได๋ ไดอาน่า กล่าวกับนายไพฑูรย์ แก้วทอง ว่า ผู้ลี้ภัยในประเทศไทยถูกกักเก็บอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศไทยมากว่า 30 ปี และที่สำคัญผู้ลี้ภัยเหล่านี้มีความแตกต่างกับแรงงานต่างด้าวอย่างสิ้นเชิง แต่พวกเขาไม่มีสิทธิในการได้รับอนุญาตให้ทำงานโดยถูกกฎหมาย อันเนื่องมาจากนโยบายที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ

นายวีรวิชญ์ ผู้อำนวยการยูเอสซีอาร์ไอประจำประเทศไทย กล่าวเสริมไดอาน่าว่า ทางยูเอสซีอาร์ไอได้เข้าไปพบกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดจนได้มีการปรึกษากับทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งก็เริ่มมีความคิดเห็นที่คล้อยตามว่า น่าจะมีการทบทวนนโยบายเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยที่ได้ดำเนินการมากว่า 30 ปี น่าจะมีการนำมาปัดฝุ่น และแก้ไขให้เหมาะสมกับสถานการณ์ภายในประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป

นายไพฑูรย์กล่าวว่า ทางกระทรวงแรงงานเองพยายามที่จะระมัดระวังในเรื่องของการบริหารจัดการเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวโดยเปิดโอกาสให้มีการขึ้นทะเบียนให้เป็นแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมาย เพราะถ้าแรงงานต่างด้าวผู้ใดยังคงเป็นแรงงานที่ผิดกฎหมายก็จะต้องถูกผลักดันให้ออกไป เพราะสำหรับแรงงานต่างด้าวที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องทางกระทรวงแรงงานก็จัดการดูแลไม่ให้นายจ้างเอาเปรียบแรงงานเหล่านี้ พร้อมกับดูแลให้จ่ายค่าตอบแทนให้กับแรงงานเหล่านี้ตามค่าแรงขั้นต่ำตามกฏระเบียบของกระทรวง

“ตอนนี้ทางกระทรวงฯเองก็ถูกโจมตีอย่างหนักจากประชาชนคนไทยหลายๆคนภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่เผชิญวิกฤตแบบนี้ว่า ทำไมกระทรวงแรงงานยังคงยอมให้คนต่างชาติหรือคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทย ทั้งๆที่มีคนไทยเป็นแสนๆที่ยังว่างงานอยู่?”

นายไพฑูรย์กล่าวว่า จริงๆแล้วกระทรวงแรงงานเอง มีตำแหน่งงานว่างอยู่เป็นแสน แต่มีผู้ที่ว่างงานหลายคนเลือกงาน ทั้งๆที่สโลแกนของกระทรวงแรงงานคือ “ไม่เลือกงาน ก็ไม่ตกงาน” สำหรับกรณีของการอนุมัติให้ผู้ลี้ภัยมีสิทธิในการทำงานนอกค่ายผู้ลี้ภัยอย่างถูกกฎหมายนั้น กระทรวงแรงงานคงต้องรอดูนโยบายของกระทรวงมหาดไทยผู้มีหน้าที่รับผิดชอบกับการอนุมัติให้ผู้ลี้ภัยได้สิทธิในการทำงานนี้เสียก่อน ถ้ากระทรวงมหาดไทยไม่ขัดข้องที่จะอนุมัติ ทางกระทรวงแรงงานก็ยินดีที่จะให้ผู้ลี้ภัยสามารถทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย โดยดำเนินขั้นตอนทุกอย่างเช่นเดียวกับแรงงานต่างด้าว โดยต้องมีการจดทะเบียนแรงงานอย่างถูกกฎหมาย เพราะความต้องการแรงงานทั่วประเทศยังมีอยู่อีกมาก

นายวีรวิชญ์ได้ชี้แจงต่อรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานว่า กลุ่มผู้ลี้ภัยที่หนีภัยความตายเข้ามาพึ่งประเทศไทยเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยที่ทางรัฐบาลพม่าไม่ต้องการให้กลับไปอยู่ในประเทศของตนอีกแล้ว ดังนั้นการแก้ปัญหาจึงมีเพียงหนทางเดียวคือการผลักดันให้ไปอยู่ในประเทศที่สาม เพราะฉะนั้นในช่วงระยะเวลาที่ผู้ลี้ภัยเหล่านี้รอการส่งไปอยู่ในประเทศที่สามประกอบกับการสนับสนุนทางด้านการเงินของประเทศผู้บริจาคก็กำลังลดการสนับสนุนลงไปถึง 20-30เปอร์เซนต์จากที่เคยให้การสนับสนุน การให้โอกาสผู้ลี้ภัยเหล่านี้มีโอกาสในการประกอบอาชีพและได้ฝึกทักษะในการทำงาน ก็อาจจะเป็นจุดดีสำหรับประเทศไทย เพราะสิ่งที่เห็นได้ชัดหลังจากที่ประเทศผู้บริจาคลดการสนับสนุนลงจึงทำให้การแจกจ่ายอาหารให้กับผู้ลี้ภัยก็ลดจำนวนลงไปซึ่งผู้ลี้ภัยได้รับผลกระทบตรงนี้โดยตรง จนทำให้เกิดปัญหาการลักลอบออกไปเป็นแรงงานต่างด้าวแบบผิดกฎหมายเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวของตนเอง และผู้ลี้ภัยเหล่านี้ต้องตกเป็นเหยื่อของพวกที่ค้ามนุษย์ ดังนั้นตรงนี้ประเทศไทยเองน่าจะมีรูปแบบของการบริหารจัดการที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ในตอนท้ายนางสาวสุพรรณีได้ปรึกษากับนายไฑูรย์ เกี่ยวกับสิทธิของผู้ลี้ภัยในการทำงานอย่างถูกฏหมาย สำหรับผู้ลี้ภัยที่อยู่ในวัยทำงานว่า ณ.ปัจจุบันผู้ลี้ภัยทั้งหมดที่อยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยทั้ง 9 ค่ายใน 4 จังหวัดมีอยู่ทั้งสิ้นประมาณ 140,000 คนนั้น ประมาณ 3-4 หมื่นคนที่กำลังอยู่ในวัยทำงาน และอีกประมาณ 9 หมื่นคนที่เป็นเด็กและคนชรา นายไพฑูรย์มีความคิดเห็นเช่นใดต่อข้อเท็จจริงข้อนี้ ซึ่งนายไพฑูรย์ก็ได้ให้ความคิดเห็นว่า โดยส่วนตัวเขาเห็นด้วยกับการที่จะให้ผู้ลี้ภัย้หล่านี้จะสามารถพึ่งพาตนเองได้ ด้วยการให้สิทธิในการทำงานอย่างมีอิสระและถูกกฎหมาย ตามหลักมนุษยชน เพราะการทำงานด้วยตนเองก็จะสามารถหารายได้ด้วยตนเองและส่งผลให้พวกเขาสามารถพึ่งพาตนเองได้ แต่ถ้าตอบในแง่ของการมองถึงส่วนรวมเป็นหลัก การอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ทำงานได้อย่างถูกกฎหมายอาจจะเป็นจุดผลักดันให้เกิดการล้นทะลักของแรงงานข้ามชาติหรือแรงงานต่างด้าวให้เข้ามาในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น

นางสาวสุพรรณี กล่าวว่าการที่ยูเอสซีอาร์ไอและตนเองในฐานะฑูตผู้ลี้ภัยได้เข้าพบกับท่านรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานวันนี้ เป็นเพียงเพื่อเยี่ยมคารวะและเรียนปรึกษาเพื่อขอคำแนะนำจากท่านรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของสิทธิในการทำงานของผู้ลี้ภัยในค่ายกักกันควรจะเป็นไปในทิศทางใด ในเมื่อการสนับสนุนจากประเทศผู้บริจาคเริ่มที่จะลดปริมาณเงินทุนในการสนับสนุนการทำงานเพื่อผู้ลี้ภัยลง และมีแนวโน้มว่าจะมีการถอนตัวออกไปในอนาคตเพราะตอนนี้ยังมีผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงจำนวนมากที่กำลังรอการให้ความช่วยเหลืออยู่ และผู้ลี้ภัยเหล่านี้ก็ถูกกักกันอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยมานานกว่า 30 ปี ดังนั้นจึงเป็นการสูญเปล่าของทรัพยากรมนุษย์ ที่น่าจะเป็นแรงงานที่มีคุณค่าต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อีกกลุ่มหนึ่ง