เฉือนกำไร200ล้านชะลอเลิกจ้าง บอร์ดสปส.ฉลุยโครงการปล่อยกู้11 .. 51 เครือมติชน ทุ่มหมื่นล้านผ่านแบงก์ สปส.เตรียมเจรจาลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ผู้ประกันตนกู้โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน แค่มีคนรับรอง เผยโครงการผลาญงบฯอีก พันล้าน บอร์ดงุบงิบผ่านซื้อข้าวสารแจกผู้ประกันตน 9.8 ล้านคน เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด) เมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมาได้มีมติเห็นชอบในหลักการให้นำเงินกองทุนประกันสังคมจำนวน 1 หมื่นล้านบาท ไปใช้ในการลงทุนเพื่อสังคม โดยการปล่อยกู้ผ่านธนาคารพาณิชย์ ซึ่งแยกเป็นในส่วนของลูกจ้าง 4,000 ล้านบาท และผู้ประกอบการ 6,000 ล้านบาท นายปั้นกล่าวว่า วิธีการคือ สปส.จะทำข้อตกลงกับธนาคารพาณิชย์ โดยนำเงินไปฝากในธนาคารดังกล่าวที่ร่วมโครงการ ทั้งนี้ สปส.จะยอมรับดอกเบี้ยเงินฝากในอัตราที่ต่ำประมาณ 1% เพื่อให้ธนาคารลดอัตราดอกเบี้ยให้กับผู้ประกันตนและสถานประกอบการในอัตราที่ต่ำกว่ารตลาด 1-2% ซึ่งในเบื้องต้นบอร์ดได้ให้ความสนใจแนวทางของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งมีโครงการฝึกอาชีพและปล่อยกู้ให้ลูกค้าอยู่แล้ว เลขาธิการ สปส.กล่าวว่า สำหรับผู้ประกันตนที่มีสิทธิ์กู้เงินได้นั้นต้องเป็นผู้ที่ออกจากงานหรือต้องการเปลี่ยนงานใหม่ โดยวงเงินที่ปล่อยกู้นั้นขึ้นอยู่กับโครงการที่ขอมาซึ่งจะไม่เท่ากัน ในส่วนของผู้ประกอบการนั้น ที่ต้องปล่อยกู้เพราะต้องการให้เกิดการจ้างงานเอาไว้ เพื่อ สปส.จะได้ไม่ต้องจ่ายประกันว่างงานกรณีถูกเลิกจ้างและยังสามารถเก็บเงินสมทบลูกจ้างต่อไปได้ ดังนั้น จึงต้องตั้งเงื่อนไขพิเศษว่าเมื่อกู้เงินไปแล้ว สถานประกอบการต้องไม่เลิกจ้างลูกจ้าง หากผิดเงื่อนไขก็ต้องมีการลงโทษ เช่น เพิกถอนออกจากระบบที่ สปส.ให้การค้ำประกันอยู่ "การปล่อยรู้ครั้งนี้อาจทำให้เราขาดรายได้ไปปีละประมาณ 200 ล้านบาท แต่ถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อสังคม ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเราจ่ายเงินกรณีว่างงานเพิ่มขึ้นมาก แต่ยังมีกองทุนสะสมเหลืออยู่อีกมาก ซึ่งปีก่อนๆ สปส.เก็บเงินกรณีว่างงานได้ราวปีละ 9 พันล้านบาท แต่จ่ายไปไม่เกิน 2 พันล้านบาท ทำให้ตอนนี้มีเงินกองทุนว่างงานอยู่ราว 3.5 หมื่นล้านบาท" นายปั้นกล่าว ด้านนายชัยสิทธิ์ สุขสมบูรณ์ ประธานสมาพันธ์แรงงานการเงินและธนาคารแห่งประเทศไทย และบอร์ดฝ่ายลูกจ้างกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยของ ธ.ก.ส.อยู่ระหว่าง 5.5-7.5% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ทั่วไปอยู่ที่ 6.25-7.25% แต่บอร์ดเห็นว่ายังสามารถต่อรองอัตราดอกเบี้ยของ ธ.ก.ส.ลงอีกได้หรือไม่ นอกจากนี้เงื่อนไขในการกู้ต้องไม่เหมือนเกษตรกรทั่วไปเพราะผู้ประกันตนต่างมีเงินสำรองที่จ่ายสมทบไว้ในกองทุนชราภาพ ดังนั้น จึงน่าจะเพียงใช้แค่คนค้ำประกันก็น่าจะพอ นายชัยสิทธิ์กล่าวถึงกรณีที่มีผู้เสนอให้ใช้เงินกองทุนประกันสังคมประมาณ 1 พันล้านบาท ซื้อข้าวสารแจกผู้ประกันตน 9.8 ล้านคน คนละ 1 ถุง ถุงละประมาณ 5 กิโลกรัม ในช่วงปีใหม่ว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบของบอร์ดแล้ว แต่ในการพิจารณาเรื่องนี้ตนไม่ได้อยู่ให้ห้องประชุมเพราะไม่เห็นด้วย และทราบมาว่าในการลงมติครั้งนั้นมีบอร์ดเข้าร่วมเพียง 8 คนจากทั้งหมด 15 คน โดยมี 5 คนเท่านั้นที่เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องดูกันในเรื่องของข้อกฎหมายให้ดี เพราะหากเอางบประมาณร้อยละ 10 ที่เป็นงบฯบริหารประกันสังคมไปใช้อาจผิดวัตถุประสงค์และผิดกฎหมายหรือไม่ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีมาตรฐานตีความไว้แล้ว "ผมคิดว่าเรื่องนี้คงไม่ทันการหรอก เพราะยังมีขั้นตอนอีกเยอะ ที่ผมไม่เห็นด้วยเพราะที่ผ่านมา สปส.ก็ถูกมองอยู่แล้วว่าเอาเงินไปถลุงเยอะอยู่แล้ว แต่ยังเอาเงินไปซื้อข้าวสารแจกอีกซึ่งดูแล้วไม่สมเหตุสมผลเลย" นายชัยสิทธิ์กล่าว |