สปส. เท 1หมื่นล้านให้ลูกจ้าง-นายจ้างกู้10 .. 51 กรุงเทพธุรกิจ เลขาฯสปส.เผยมติบอร์ด เท1หมื่นล้านให้ผู้ประกันตน-นายจ้างกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อชะลอเลิกจ้าง-ปิดกิจการ ลูกจ้างกู้ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำ บอร์ดลูกจ้างปูดมติเทงบ1พันล้านซื้อข้าวสารแจกขัดกม. กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการประกันสังคม เมื่อวานนี้( 9 ธ.ค.) มีมติเห็นชอบหลักการให้นำเงินกองทุนประกันสังคมจำนวน 1 หมื่นล้านบาท ไปใช้ในการลงทุนเพื่อสังคม โดยการปล่อยกู้ผ่านธนาคารพาณิชย์ ซึ่งแยกเป็นส่วนของลูกจ้าง 4,000 ล้านบาท และผู้ประกอบการ 6,000 ล้านบาท นายปั้นกล่าวว่า วิธีการคือ สปส.จะทำข้อตกลงกับธนาคารพาณิชย์ โดยนำเงินไปฝากในธนาคารดังกล่าวที่ร่วมโครงการ ทั้งนี้สปส.จะยอมรับดอกเบี้ยเงินฝากในอัตราที่ต่ำประมาณ 1% เพื่อให้ธนาคารลดอัตราดอกเบี้ยให้กับผู้ประกันตนและสถานประกอบการในอัตราที่ต่ำกว่ารตลาด 1-2% ซึ่งในเบื้องต้นบอร์ดได้ให้ความสนใจแนวทางของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.) ซึ่งมีโครงการฝึกอาชีพและปล่อยกู้ให้ลูกค้าอยู่แล้ว เลขาธิการสปส.กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ประกันตนที่มีสิทธิ์กู้เงินได้นั้นต้องเป็นผู้ที่ออกจากงานหรือต้องการเปลี่ยนงานใหม่ โดยวงเงินที่ปล่อยกู้นั้นขึ้นอยู่กับโครงการที่ขอมาซึ่งจะไม่เท่ากัน ในส่วนของผู้ประกอบการนั้น ที่ต้องปล่อยกู้เพราะต้องการให้เกิดการจ้างงานเอาไว้ เพื่อสปส.จะได้ไม่ต้องจ่ายประกันว่างงานกรณีถูกเลิกจ้างและยังสามารถเก็บเงินสมทบลูกจ้างต่อไปได้ ดังนั้นจึงต้องตั้งเงื่อนไขพิเศษว่า เมื่อกู้เงินไปแล้ว สถานประกอบการต้องไม่เลิกจ้างลูกจ้าง หากผิดเงื่อนไขก็ต้องมีการลงโทษ เช่น เพิกถอนออกจากระบบที่สปส.ให้การค้ำประกันอยู่ "การปล่อยรู้ครั้งนี้อาจทำให้เราขาดรายได้ไปปีละประมาณ 200 ล้านบาท แต่ถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อสังคม ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเราจ่ายเงินกรณีว่างงานเพิ่มขึ้นมาก แต่ยังมีกองทุนสะสมเหลืออยู่อีกมาก ซึ่งปีก่อนๆ สปส.เก็บเงินกรณีว่างงานได้ราวปีละ 9 พันล้านบาท แต่จ่ายไปไม่เกิน 2 พันล้านบาท ทำให้ตอนนี้มีเงินกองทุนว่างงานอยู่ราว 3.5 หมื่นล้านบาท นายปั้นกล่าว ด้านนายชัยสิทธิ์ สุขสมบูรณ์ ประธานสมาพันธ์แรงงานการเงินและธนาคารแห่งประเทศไทย และบอร์ดฝ่ายลูกจ้างกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยของธกส.อยู่ระหว่าง 5.5-7.5% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ทั่วไปอยู่ที่ 6.25-7.25% แต่บอร์ดเห็นว่ายังสามารถต่อรองอัตราดอกเบี้ยของธกส.ลงอีกได้หรือไม่ นอกจากนี้เงื่อนไขในการกู้ต้องไม่เหมือนเกษตรกรทั่วไปเพราะผู้ประกันตนต่างมีเงินสำรองที่จ่ายสมทบไว้ในกองทุนชราภาพ ดังนั้นจึงน่าจะเพียงใช้แค่คนค้ำประกันก็น่าจะพอ นายชัยสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีมีผู้เสนอให้ใช้เงินกองทุนประกันสังคมประมาณ 1 พันล้านบาทซื้อข้าวสารแจกผู้ประกันตน 9.8 ล้านคนๆ ละ 1 ถุงๆ ละประมาณ 5 กิโลกรัมในช่วงปีใหม่ ว่าขณะนี้เรื่องดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบของบอร์ดแล้ว แต่ในการพิจารณาเรื่องนี้ตนไม่ได้อยู่ให้ห้องประชุม เพราะไม่เห็นด้วย "ผมทราบว่า การลงมติครั้งนั้นมีบอร์ดเข้าร่วมเพียง 8 คนจากทั้งหมด 15 คน โดยมี 5 คนเท่านั้นที่เห็นด้วย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงต้องดูกันในเรื่องของข้อกฎหมายให้ดี เพราะหากเอางบประมาณร้อยละ 10 ที่เป็นงบบริหารประกันสังคมไปใช้อาจผิดวัตถุประสงค์ และผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีมาตรฐานตีความไว้แล้ว" นายชัยสิทธิ์ บอร์ดฝ่ายลูกจ้าง กล่าวอีกว่า เรื่องนี้คงไม่ทันการ เพราะยังมีขั้นตอนอีกเยอะ ที่ตนไม่เห็นด้วยเพราะที่ผ่านมา สปส.ก็ถูกมองอยู่ว่า เอาเงินไปถลุงเยอะแล้ว แต่ยังเอาเงินไปซื้อข้าวสารแจกอีกซึ่งดูแล้วไม่สมเหตุสมผลเลย |