Thai / English

นัดยุติปัญหาเลิกจ้างแรงงาน ‘โฮย่า’ - รอง ปธ.สหภาพเผยทุกคนหวังกลับเข้าทำงาน



07 .. 51
ประชาไท

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ณ โรงแรมเซ็นทารา ดวงตะวัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ บริษัทโฮย่ากลาสดิสก์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้นัดตัวแทนฝ่ายลูกจ้างในส่วนของพนักงานที่โดนเลิกจ้าง 44 คน มาเจรจาเพื่อยุติปัญหา ตัวแทนฝ่ายนายจ้างได้ยื่นข้อเสนอให้ปฏิบัติในการประชุม 2 ข้อด้วยกัน คือ 1.การประชุมเป็นกลุ่มใหญ่ 2.ตกลงกันทีละคนโดยตรงเพื่อให้พนักงานมีจุดยืนและความคิดของตนเอง

การตกลงแบ่งเป็น 2 วัน วันแรกเป็นการพูดคุยกับพนักงานที่ได้รับค่าชดเชยภายหลังจากที่ถูกเลิกจ้างมีจำนวน 30 คน (วันที่ 5 พ.ย.) วันที่สองเป็นนัดพูดคุยกับพนักงานที่ถูกเลิกจ้างแต่ไม่ได้รับค่าชดเชยจำนวน 12 คน (วันที่ 6 พ.ย.)

สมาชิกสหภาพแรงงานฯ คนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า “ตัวแทนฝ่ายนายจ้างเป็นระดับผู้จัดการที่ผ่านมา ตัวแทนฝ่ายนายจ้างเป็นระดับหัวหน้างาน การรับเรื่องไปพิจารณาตัดสินใจไม่ได้ ในช่วงที่ผ่านมาตัวแทนฝ่ายนายจ้างมีการพูดถึงการต่อสู้ทางชั้นศาลทางลูกจ้างจะเสียเปรียบสายป่านสั้นลง เป็นการพูดให้ฝ่ายลูกจ้างกลัวและหยุดต่อสู้ไป ถ้าพวกเราหยุดต่อสู้สิ่งที่เราทำมาที่เกิดจะประโยชน์ต่อสังคมในระยะยาวก็จะไม่เกิดขึ้น”

“อยากให้พี่น้องแรงงานทั่วประเทศเป็นกำลังใจ แนวทางการต่อสู้ของแรงงานค่อนข้างลำบากมีข่าวว่า ปีหน้าจะมีการเลิกจ้างแรงงานอีกมากเป็นภาระของแรงงานที่ต้องเจอในอนาคต”

สมาชิกอีกคนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า “เราจะสู้เพื่อการรวมตัวของลูกจ้างให้เกิดขึ้นในนิคมอุตสาหกรรมลำพูน ไม่ใช่ว่าเป็นมา 20-30 ปี มีปัญหาตลอดแต่ไม่เคยมีการพัฒนาของการรวมตัวของลูกจ้างเลย ที่พวกเราต้องต่อสู้ก็เพื่อต้องการให้แรงงานมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมีสิทธิในการต่อรองกับนายจ้าง แต่พวกผมก็ไม่สามารถที่จะทำให้ความคิดของทุกคนเป็นเหมือนกับพวกผม สิ่งที่ทำต้องการให้เป็นบรรทัดฐาน การที่พวกเราจะกลับเข้าไปทำงานได้ปกติหรือไม่เราไม่สน”

“อยากฝากถึงสื่อให้เป็นกระบอกเสียงให้กับแรงงานให้มากขึ้น เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ หันมาสนใจมากขึ้น หลายครั้งรู้สึกว่าการต่อสู้ของเราถูกกีดกันจากหน่วยงานราชการ และจากหลายส่วน”

ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์พนักงานหญิงกลุ่มหนึ่ง ถึงความเป็นอยู่ในช่วงที่ไม่ได้ทำงาน พนักงานคนหนึ่งให้คำตอบว่า “ตกงานเลี้ยงลูกอยู่บ้านลำบาก จะสร้างบ้านยังไม่ได้สร้าง ต้องหยุดก่อน ขายน้ำปั่นอยู่บ้าน ดีที่ทางครอบครัวเข้าใจ แต่เรื่องเงินเป็นปัญหาแรกจะใช้จ่ายอะไรก็เป็นเงิน จากเมื่อก่อนเคยทำงาน 2 คน หาเงินเก็บแต่เดี๋ยวนี้ทำงานคนเดียวแทบไม่มีเงินเก็บ อายุมากอยู่แล้วไปสมัครงานที่อื่นก็ลำบาก เด็กรุ่นหลังที่เรียนจบมามีโอกาสสมัครงานได้มากกว่าพวกเรา”

พนักงานอีกรายกล่าวว่า “ได้ทดลองทำซักอบรีดแต่ก็พอได้กินไปวันๆ ทดลองขายส้มตำทำคู่กันแต่เดี๋ยวนี้ทำซักอบรีดอย่างเดียวเพราะมีผ้ามาส่งมาก หักค่าน้ำค่าไฟแล้วเดือนหนึ่งได้กำไรสัก 1000-2000 บาท ตอนแรกครอบครัวก็สงสัยเหมือนกันว่าเพราะอะไรถึงโดนเลิกจ้างไปทำอะไรผิดหรือ แต่ก็ได้อธิบายพวกเขาก็เข้าใจดี เราเห็นว่าเป็นสิ่งที่ทำถูกต้องและจะทำต่อไป”

ภายหลังการประชุมกันเสร็จสิ้น นายอัครเดช ชอบดี รองประธาน สหภาพแรงงานอิเล็คทรอนิคส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าสัมพันธ์ (สอฟส.) ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้บริษัทเรียกมาสอบถามว่า ใครที่มีความต้องการที่จะกลับไปทำงานกับบริษัท หรือได้งานใหม่แล้วต้องการที่จะไปทำงานกับบริษัทอื่น

“พวกเราส่วนใหญ่อยากกลับไปทำงานหมด แม้ว่าบางคนได้งานใหม่แล้ว แต่อย่าลืมว่าครอบครัวของเราอยู่ที่นี่ แม้ว่าจะได้งานใหม่แล้วก็จริง แต่ว่าถ้าบริษัทเรียกกลับเข้าทำงานก็ยินดี จึงบอกตัวแทนฝ่ายบริษัทว่าประเด็นนี้ไม่ต้องเป็นห่วงเลย”

ทั้งนี้ นายอัครเดช กล่าวว่า ตัวแทนจากบริษัทรับปากว่าจะกลับไปคุยกับผู้บริหารเพื่อให้ตกลงรับพนักงานที่ถูกเลิกจ้างกลับเข้าทำงาน เพื่อเป็นไปตามแนวทางที่สมานฉันท์ต่อไป ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่นั้น ตัวแทนจากบริษัทรับปากว่าจะเร็วที่สุด

รองประธานสหภาพฯ กล่าวเสริมว่า อยากให้ทางผู้บริหารชาวญี่ปุ่นวางใจได้ ว่าทางสหภาพไม่ได้ทำอะไรให้เสียหาย โดยพร้อมที่จะกลับไปทำงานกับบริษัทเหมือนเดิม ที่ติดอยู่คือผู้บริหารญี่ปุ่นอาจไม่วางใจว่าเมื่อกลับเข้าไปทำงานจะไปทำอะไรให้เสียหายหรือเปล่า ปองร้ายหรือเปล่า อยากให้ทางผู้บริหารแสดงออกเป็นน้ำใจว่ารับพวกเขากลับไปทำงาน อย่าให้ถึงขั้นว่ามีข้าราชการ มีตัวกลางมาตัดสินแล้วต้องรับกลับเข้าไปมันดูไม่ดี ความต้องการของทางสหภาพต้องการให้ทุกคนกลับเข้าทำงานหมดเพราะว่า พนักงานไม่มีความผิด ถ้าบริษัทยืนยันจะรับพนักงานชุดนี้ก่อน ชุดต่อไปจึงค่อยดำเนินการต่อไป