พิษน้ำมันแพงประมงหนีขายแรงงาน03 .. 50 เดลินิวส์ เมื่อ วันที่ 1 ธ.ค. นายประเทือง ทิพยมาศ นายกสมาคมชาวประมงนครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงสถานการณ์ของผู้ประกอบการประมงในพื้นที่ว่า โดยข้อเท็จจริงแล้วกิจการประมงแทบไปไม่รอด นับตั้งแต่น้ำมันราคาลิตรละ 20 บาท ตอนนี้ขึ้นมาถึง 30 บาทยิ่งหนักกว่าเดิม โดยเฉพาะประมงชาย ฝั่งที่ต้องเติมน้ำมันจากฝั่ง ราคาน้ำมันก็สูง สัตว์น้ำก็หายากมากขึ้นกว่าเดิม ช่วงนี้ถ้าเทียบกับคนไข้ที่อยู่ในโรงพยาบาล เท่ากับนอนหายใจกับมีสมองที่ทำงานเท่านั้น ถ้าสมองตายทุกอย่างตายเลย และที่น่าวิตกคือ ประมงพื้นบ้านประมงชายฝั่งขนาดเล็ก ที่ออกค่ำเช้ากลับเข้าฝั่ง กลุ่มนี้เหลือทำประมงอยู่น้อยมาก ชาวบ้านที่มีอาชีพประมงชายฝั่งใน อ.ปากพนัง ส่วนใหญ่จะใช้น้ำมันเบนซิน 91 เป็นเชื้อเพลิงเบนซินขณะนี้ทะลุ 30 บาทไปแล้ว บ้างก็ใช้ดีเซล แต่เป็นส่วนน้อย เพราะเป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กแค่ไม่กี่แรงม้า ทำให้ต้นทุนหลักคือน้ำมันออกทะเลครั้งหนึ่งไม่น้อยกว่า 500 บาท ขณะที่ขายสัตว์น้ำได้แค่ไม่กี่ร้อย บางครั้งหักค่าน้ำมันเหลือแค่ร้อยเดียวด้วยซ้ำ แต่ถ้าโชคร้ายก็ได้เงินไม่พอค่าน้ำมัน นายกสมาคมชาวประมงนครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า นี่คือช่วงลำบากที่สุดของชาวประมงพื้นบ้าน ไม่ทราบว่าผู้เกี่ยวข้องรับรู้หรือไม่ว่าคนเหล่านี้กว่าร้อยละ 90 กำลังทิ้งอาชีพอพยพย้ายถิ่นฐานไปขายแรงงาน จุดใหญ่ที่ชาวปากพนังอพยพไปนั้น คือ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ภูเก็ต รวมทั้งกรุงเทพฯ ซึ่งยังต้องผจญกับค่าครองชีพที่สูงอีก ขณะที่สมาคมประมงกำลังหาทางแก้ไขในส่วนที่แก้ได้ แต่ส่วนที่แก้ไม่ได้ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่ใช่ว่าไม่เข้มแข็ง แต่ถ้าเคลื่อนไหวไปมากชาวบ้านก็เดือดร้อน ขณะที่ชาวประมงขนาดใหญ่รายหนึ่ง เปิดเผยว่า ยอมรับว่าเรือประมงขนาดใหญ่ยังพออยู่ได้บ้าง เพราะอาศัยน้ำมันเถื่อนในการทำการประมงขณะนี้ โดยเรือขนาดใหญ่จะใช้วิธีออกไปเติมนอกน่านน้ำไทย และเมื่อเกิน 200 ไมล์ทะเล จะเป็นน่านน้ำสากล เรือขายน้ำมันเถื่อนจะจอดลอยลำอยู่สามารถเข้าไปเติมได้ ซึ่งราคาถูกกว่าลิตรละ 5-7 บาท และใช้วิธีชำระเงินกันบนฝั่ง เพราะถ้าเข้ามาเติมน้ำมันเขียวจะไม่คุ้มค่า. |