ญาติแรงงานดูไบที่เสียชีวิตกลุ้มหาเงินใช้หนี้วิ่งเต้นไปเมืองนอก04 .. 50 ผู้จัดการ หนองคาย - ญาติคนงานไทยที่เดินทางไปทำงานที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับอิเมอร์เรต รอรับศพที่บ้านด้วยความเศร้าสร้อย หนักใจเรื่องหนี้สินที่กู้ทั้งในและนอกระบบที่ต้องรับภาระแทน จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2550 ที่ผ่านมา ที่มีคนงานไทยประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย ขณะที่เดินทางไปทำงานกับนายจ้างคือ บริษัท วีเอสอาร์ลิมิเต็ด ซึ่งก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน ส่งโดยบริษัทจัดหางาน แมนโฟร์ เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด ช่วงเกิดเหตุคนไทย 7 คนออกเดินทางโดยเครื่องบินจากประเทศไทยไปลงสนามบินดูไบแล้ว ประเทศสหรัฐอาหรับอิเมอร์เรต (ยูเออี) นายจ้างได้นำรถตู้มารับ เพื่อจะไปส่งที่พัก ระหว่างทางรถตู้ได้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้คนงานไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่ง 2 ใน 6 คนที่เสียชีวิตนั้นเป็นคนงานที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.สังคม จังหวัดหนองคาย ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นญาติพี่น้องกัน ผู้สื่อข่าวรายงานมาจากบ้านของนายวิไล อุ่นศิริ บ้านเลขที่ 95 หมู่ 4 บ้านแก้งใหม่ ต.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย และจากบ้านของ นายก้อน ปานคาน บ้านเลขที่ 22 หมู่ 4 บ้านนาโคก ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ว่า บรรยากาศทั้ง 2 แห่งคล้าย ๆ กัน คือญาติพี่น้องต่างอยู่ในอาการโศกเศร้า มีการจัดบ้านและตั้งเต้นท์ เพื่อรอรับศพและประกอบพิธีศพตามประเพณี นางเหง้า แสนทรัพย์ อายุ 64 ปี แม่ยายของนายวิไล กล่าวว่าญาติพี่น้องต่างเศร้าใจจากเหตุการณ์เสียชีวิตอย่างกระทันหันของนายวิไล ที่ถือเป็นเสาหลักของครอบครัว ซึ่งรับภาระทั้งหมด นายวิไล อายุ 42 ปี มีภรรยาทำงานอยู่ที่จังหวัดระยอง มีลูก 3 คน คนโตเป็นผู้หญิง อายุ 21 ปีมีครอบครัวแล้ว คนที่ 2 เป็นผู้หญิงเช่นกัน อายุ 16 ปี กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้น ม.4 และคนที่ 3 เป็นผู้ชาย อายุ 9 ปี กำลังเรียนอยู่ในชั้น ป.3 เรียนอยู่ที่จังหวัดระยอง ขณะนี้กำลังเดินทางมา นายวิไล เคยไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน 3 ปี และมาพักอยู่ 3 ปีก่อนจะเดินทางไปทำงานในครั้งนี้ ก่อนไปก็ได้นำบ้านไปจำนองกับธนาคาร 100,000 บาท ซึ่งตนจะไม่รู้เลยว่าจะหาเงินที่ไหนใช้หนี้ ทางด้านนางเทพธิดา ปานคาน อายุ 35 ปี ภรรยาของนายก้อน ปานคาน อายุ 38 ปี อยู่ที่กระท่อมที่ไร่ ไม่มีเลขที่ บ้านนาโคก หมู่ 4 ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ก็อยู่ในอาการโศกเศร้าเช่นกัน กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า บ้านของตนก็ไม่มีอยู่ เงินที่ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานในครั้งนี้ก็ยืมจากเพื่อนบ้านมา 60,000 บาท บ้านที่จะใช้จัดงานศพก็ต้องอาศัยบ้านของมารดาเพราะไม่ของตนไม่มี ไฟฟ้าก็ไม่มี นายก้อน เป็นเสาหลักของครอบครัวเพียงคนเดียว เมื่อเสียนายก้อนไป ตนยังไม่รู้จะทำอย่างไร ลูกทั้ง 2 คน คนโตเป็นชาย อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 คนเล็กเป็นหญิงอายุ 9 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.3 จะมีอนาคตเป็นอย่างไร หนี้สินที่กู้เขาไปจะหาที่ไหนใช้ สำหรับการช่วยเหลือในเบื้องต้นนั้น ทางบริษัทจัดส่งคนงานได้ยืนยันจะให้เงินในการจัดงานศพ คนละ 20,000 บาท ในส่วนของกรมการจัดหางานนั้น ได้ให้สำนักงานแรงงานจังหวัดหนองคาย เดินทางไปพบกับญาติพี่น้องของคนงานที่เสียชีวิตทั้ง 2 คนแล้วในช่วงสายของวันที่ 2 ตุลาคม 2550 โดยยืนยันว่า ในเบื้องต้นญาติจะได้รับเงินสงเคราะห์รายละ 40,000 บาท |