แฉแก๊งนรกลวง ค้าแรงงานทาสไทยรัฐ 14 .. 50 ไทยรัฐ เปิดเผยเมื่อวันที่ 13 พ.ค. จากนายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา เกี่ยวกับข้อมูลคนหายในรอบปีที่ผ่านมา ถึงตัวเลขคนสูญหายถึงวันนี้มีอยู่ 780 คน เป็นชาย 272 ราย หญิง 508 ราย และที่น่าตกใจ ประเภทการหายนั้นเกิดจากถูกล่อลวงลักพาตัวไปเพื่อนำไปขายและถูกบังคับเป็นแรงงานทาสบนเรือประมง รวม 65 ราย ล้วนเป็นผู้ชาย ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นและวัยทำงาน เฉลี่ยอายุระหว่าง 15-35 ปี โดยจากการสอบถามผู้เสียหายที่หนีรอดมาได้เล่าว่า ถูกบังคับให้ทำงานอยู่บนเรือเยี่ยงทาส ถูกทำร้ายทุบตีอย่างทารุณ ซึ่งยังมีแรงงานที่ถูกล่อลวงและลักพาตัวอยู่บนเรือประมงอีกจำนวนมากที่รอการช่วยเหลือ และลักษณะของการล่อลวงลักพาตัวไปนั้น มีกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ ทำงานเป็นเครือข่ายเชื่อมโยง มีนายหน้า ผู้นำพา และผู้ประกอบการที่รับซื้อแรงงาน ซึ่งปัญหาดังกล่าวยังไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นสาธารณะ ในอันที่จะได้รับการแก้ไขจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายฯ มูลนิธิกระจกเงา เปิดเผยอีกว่า การค้ามนุษย์ในลักษณะนี้เป็นภัยต่อสังคม เพราะมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวปะปนอยู่ในสังคม คอยเฝ้าล่าเหยื่อเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ เลือกเหยื่อที่เป็นวัยรุ่น วัยฉกรรจ์ ที่มีกำลังสามารถใช้แรงในการทำงานบนเรือประมงได้ เมื่อนำไปขายให้ผู้ประกอบการจะได้ค่าหัวถึงรายละ 3,000-5,000 บาท เป้าหมายของมิจฉาชีพจะเลือกเหยื่อที่เพิ่งเคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯเป็นครั้งแรก อาจจะมาหางานทำ หรือมาแบบไม่มีจุดหมายปลายทาง ลักษณะของเหยื่อท่าทางซื่อและไม่คุ้นเคยสถานที่ วิธีการนั้น นายหน้าจะเข้าตีสนิทกับเหยื่อ หลอกเสนองานให้ทำ มีค่าตอบแทนสูง เพื่อเป็นสิ่งจูงใจ นอกจากนี้ ยังมีวิธีการหลอกอุบาย เช่น ทำทีโทรศัพท์มือถือคุยกับพรรคพวก อ้างกับเหยื่อว่ากำลังคุยกับนายจ้างที่จะพาไปฝากงาน และให้เหยื่อพูดคุยสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ เพื่อตกลงค่าจ้างกัน ซึ่งลักษณะนี้ทำให้เหยื่อไว้วางใจและยอมที่จะเดินทางไปด้วย หรือใช้กลวิธีติดประกาศรับสมัครงานตามสถานีขนส่งอีกด้วย หากเหยื่อ หลงเชื่อติดต่อกลับไป กลุ่มมิจฉาชีพจะรีบมาดูตัว และพูดโน้มน้าวว่างานที่ต้องการเต็มแล้ว แต่มีงานอื่นที่รายได้ดีเหมือนกันให้ทำ แต่สุดท้ายจะถูกล่อลวงไปเป็นทาสแรงงานบนเรือประมงในที่สุด นายเอกลักษณ์ยังเปิดเผยอีกว่า มีเหยื่อบางรายที่โชคดีหลุดรอดหนีจากการเป็นทาสนรกบนเรือประมงมาได้ มีประสบการณ์มาถ่ายทอดให้ฟังว่า ขณะเดินเข้าไปในห้องน้ำของสถานีขนส่งหมอชิต (ขาเข้า) ถูกกลุ่มมิจฉาชีพเดินตามเข้าไปประกบ 2-3 คน ถูกป้ายยาให้สะลึมสะลือ หรือถูกโปะยาสลบจนหมดสติ ตื่นขึ้นมาอีกทีพบว่าตัวเองอยู่บนเรือประมงลอยลำอยู่กลางทะเลแล้ว หรือบางรายขณะเดินอยู่ริมถนน มีรถตู้มาจอดเทียบประกบ กลุ่มชายฉกรรจ์ในรถใช้อาวุธปืนจี้บังคับขึ้นรถ ใช้ผ้าปิดตา นำไปขังไว้ในเซฟเฮาส์ และมีคนที่ถูกจับมาขังรวมกันอยู่ ไม่ต่ำกว่า 20 คน มีคนคุม รอการส่งต่อไปยังท่าเรือ เพื่อไปเป็นแรงงานบนเรือประมง ที่จังหวัดสงขลา แต่ละรายต้องถูกทรมานทุบตีอยู่บนเรือถึง 2-3 ปี กว่าจะหลบหนีด้วยการกระโดดลอยคออยู่กลางทะเลหลายวัน สำหรับสถานที่เสี่ยงภัยที่ควรระวังได้แก่ สถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ สถานีรถไฟหัวลำโพง และท้องสนามหลวง ขณะที่นายสมชาย แผนจู อายุ 29 ปี หนุ่มจาก จ.อุทัยธานี เหยื่อแก๊งค้ามนุษย์ที่หนีรอดมาได้เล่าประสบการณ์ตรงหลังจากหนีรอดเงื้อมมือแก๊งนรกมาได้ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา หลังจากเดินทางจากบ้านเกิดเพื่อมาหางานทำ และไปแวะพักแรมอยู่ที่ท้องสนามหลวงเพื่อรอหางานทำ ช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม มีชาย 2 คน อายุระหว่าง 35-40 ปี เข้ามาตีสนิทพูดคุยเลี้ยงเบียร์ ขณะสนทนาชักชวนให้ไปทำงานเป็นลูกเรือประมง มีรายได้งดงามถึงเดือนละ 30,000 บาท ระหว่างนั้นรู้สึกว่าตัวเองไม่อยู่ในสภาพช่วยเหลือตัวเองได้ ก่อนถูกลากขึ้นรถแท็กซี่ ตื่นขึ้นมาพบว่าถูกขังอยู่ในบ้านแห่งหนึ่ง เป็นป่าละเมาะล้อมรอบ มีกลุ่มผู้ชายวัยระหว่าง 15-45 ปี ประมาณ 20 คน ถูกขังรวมอยู่ด้วย นายสมชายเล่าต่ออีกว่า ระหว่างถูกคุมขังอยู่นั้น มีชายฉกรรจ์ 3-4 คน คอยคุมเชิง หาอาหารมาส่งให้ทุกมื้อ ตนพยายามหลบหนี แต่ถูกจับได้จนโดนซ้อมทุบตี ต่อหน้าคนอื่นๆที่ไม่มีใครกล้าช ่วยเหลือ และบอกว่าพวกเขาก็ถูกหลอกมาเหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ จนรู้ว่าบ้านที่ใช้ถูกคุมขังนั้นอยู่ในตัวเมืองมหาชัย จ.สมุทรสาคร ก่อนที่เหยื่อทุกคนจะถูกชายฉกรรจ์ 3-4 คน คุมขึ้นรถตู้พาลงไปทางใต้ เข้าใจว่าน่าจะไปลงเรือที่ จ.สงขลา ระหว่างทางประมาณตี 2 เข้าพื้นที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างแวะปั๊มน้ำมัน จึงเป็นโอกาส ตนจึงออกอุบายเข้าห้องน้ำ แล้ววิ่งหลบหนีลงไปในป่าหญ้าอย่างไม่คิดชีวิต ก่อนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้ช่วยส่งกลับบ้านเกิด เชื่อว่ายังมีคนถูกหลอกไปเป็นเหยื่ออยู่ในเรืออีกหลายร้อยชีวิต ที่ยังไม่มีใครช่วยเหลือ อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับการขจัดภัยสังคมแก๊งนี้ พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม รับผิดชอบงานคุ้มครองพิทักษ์สิทธิเด็กฯเปิดเผยว่า ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว จากการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ทั้งตัวแทนกระทรวงยุติธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน มูลนิธิต่างๆ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยที่รับผิดชอบ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อเร่งกวาดล้างจับกุม เพราะเข้าข่ายเป็นขบวนการค้ามนุษย์ที่มีลักษณะเป็นภัยต่อสังคม นำคนไปขายเป็นรายหัว และเหยื่อถูกใช้งานเยี่ยงทาส เบื้องต้นได้ให้ทางเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ซึ่งรับตัวเหยื่อผู้เสียหายที่หนีรอดจากการถูกล่อลวงไปทำงานบนเรือประมงมาได้ ส่งข้อมูลมาให้ดำเนินการ จากการสอบสวนส่วนใหญ่เหยื่อจะเป็นผู้ชายวัยรุ่น โดยตนจะลงไปควบคุมดำเนินการด้วยตัวเองอย่างจริงจัง และมอบหมายให้ทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี (ปดส.) เข้าไปสอบปากคำเหยื่อผู้เสียหายเหล่านี้แล้ว และเตรียมดำเนินการกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ พร้อมกับช่วยเหลือเหยื่อที่ยังถูกหลอกอยู่ในเรือประมงต่อไป |