Thai / English

สปส.วุ่น-รพ.เอกชนเมินเข้าร่วม


เดลินิวส์
30 .. 50
เดลินิวส์

นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวถึงกรณีที่โรงพยา บาลเอกชนในเครือประกันสังคมจำนวนกว่า 200 แห่งประกาศไม่ยื่นใบสมัครเป็นโรงพยาบาลในเครือ สปส. ในปี 2551 ว่า เรื่องนี้อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนกัน ซึ่งที่ผ่านมาคณะะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด) ได้เสนอปรับอัตราค่าใช้จ่ายรายหัวตามอัตราเงินเฟ้อ และไม่หวังกำไรและขาดทุน โดยเพิ่มงบรายหัวค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้ประกันตนอีกรายละ 34 บาท คือจากเดิมหัวละ 1,250 เป็น 1,284 บาท รวมทั้งบวกค่ารักษาพยาบาลโรคที่อยู่ในภาวะเสี่ยงร้ายแรง 25 โรค อาทิ เบาหวาน โดยเพิ่มค่ารักษาให้จาก 205 บาท เป็น 211 บาท

นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามหากการรักษาพยาบาลแล้วผู้ป่วยมีอาการโรควิกฤติเพิ่ม เช่น การผ่าตัดโรคหัวใจ สปส. ก็จะจ่ายเพิ่มให้กับผู้ประกันตนรายละ 100,000 บาท การปลูกถ่ายไตจ่าย 230,000 บาท ปลูกถ่ายไขกระดูก 750,000 บาท ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดนี้คณะกรรมการการแพทย์ยังไม่พึงพอใจเนื่องจากต้องการให้ปรับอัตราค่าเหมาจ่าย รายหัวจาก 1,250 บาทเป็น 1,537 บาท รวมทั้งเพิ่มค่ารักษาพยาบาลภาวะเสี่ยงจำนวน 384 บาท ซึ่งทำให้ สปส. มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึงปีละ 4,560 ล้านบาท ทั้งนี้ สปส. ขอหารือกับบอร์ดการแพทย์ และให้ทำวิจัยตัวเลขค่าหัวที่แท้จริงอีกครั้ง คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 2 เดือนก็จะได้ข้อสรุป

“ถึงที่สุดแล้วถ้าพูดคุยกันไม่ได้ข้อยุติภายในสิ้นปีนี้ เราต้องให้ผู้ประกันไปใช้บริการที่ รพ.รัฐ แทน ซึ่งขณะนี้มี รพ.เอกชนในกรุงเทพฯ จำนวน 14 แห่งแจ้งว่าพร้อมจะให้บริการรักษาผู้ประกันตนต่อ ในส่วนของ รพ.เอกชนต่างจังหวัด ก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน” นายสุรินทร์ กล่าวและว่า อยากให้ทั้งบอร์ดการแพทย์และ รพ.เอกชน ถอยกันคนละก้าว เพราะเรื่องเงิน สปส. ไม่มีปัญหาแต่ ต้องใช้เงินผู้ประกันอย่างมีเหตุผล ขณะนี้ถ้ายังไม่มีการปรับ แต่ก็จะปรับให้ย้อนหลังอยู่แล้ว

นายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี ปลัดกระ ทรวงแรงงาน ในฐานะประธานบอร์ดประกันสังคม กล่าวว่า ขณะนี้ต้องนำปัญหาของ รพ.เอกชนและบอร์ด สปส. มาพิจารณาร่วมกันว่าที่มีการระบุว่าผมไม่ให้เพิ่มค่าเหมาจ่ายนั้นผมเองไม่เคยพูดเลย ไม่ทราบว่าคนที่ออกมาพูดนั้นเอาเรื่องมาจากไหน ซึ่งถ้ามีความจำเป็นจริงผมก็ให้.