Thai / English

ผู้ใช้แรงงานโวยประกันสังคมปิดหูปิดตา


ไทยโพสต์
06 .. 50
ไทยโพสต์

ผู้ใช้แรงงานโวยถูกปิดหูปิดตาไม่สามารถเข้าไปดูรายละเอียดสถานพยาบาลเพื่อประกอบการเลือกให้บริการทางอินเทอร์เน็ตได้เหมือนเดิม เพราะสำนักงานประกันสังคมล็อกข้อมูล โทรศัพท์ไปถามก็ติดต่อยาก แถมสายหลุดบ่อยจนหงุดหงิดและต้องเสียเงินค่าโทร.อีกด้วย

ทั้งนี้ ได้มีผู้ประกันตนร้องเรียนกันมามากว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2550 เป็นช่วงที่สำนักงานประกันสังคมให้ผู้ประกันตนสามารถเปลี่ยนบัตรรับรองสิทธิ์เลือกโรงพยาบาลในการรักษาพยาบาลได้ จึงมีผู้ประกันตนจำนวนมากสนใจที่จะเปลี่ยนโรงพยาบาลกันใหม่ จึงตรวจสอบข้อมูลสถานพยาบาลทางอินเทอร์เน็ตของสำนักงานประกันสังคมใน WWW.sso.go.th เพื่อเข้าไปดูศักยภาพของโรงพยาบาลในการรับผู้ประกันตน ดูยอดจำนวนผู้ประกันตนที่โรงพยาบาลสามารถรับได้ว่าเต็มหรือยัง และดูยอดผู้ประกันตนที่เลือกโรงพยาบาลนั้นว่ามากน้อยแค่ไหน เพื่อประกอบการพิจารณาในการเลือก เพราะผู้ประกันตนเมื่อเข้าไปดูทางอินเทอร์เน็ตแล้วหากพบว่าโรงพยาบาลที่จะเลือกมีคนเลือกมากก็จะเปลี่ยนไปอีกโรงพยาบาลหนึ่งที่มีคนเลือกน้อยกว่า และใกล้บ้านหรือที่ทำงานมากกว่า เพื่อหวังที่จะได้รับบริการอย่างรวดเร็ว เพราะโรงพยาบาลที่มีผู้เลือกมากผู้ใช้บริการก็จะมากตามไปด้วย ทำให้การให้บริการล่าช้าต้องคอยนาน

แต่ปรากฏว่าระยะเวลากว่า 2 เดือนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันไม่สามารถเข้าไปดูทางอินเทอร์เน็ตได้ว่าโรงพยาบาลไหนรับผู้ประกันตนเท่าใด เต็มหรือไม่เต็ม ต้องโทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมซึ่งติดยากมาก แถมต้องเสียเงินอีกต่างหาก และสายก็หลุดบ่อยจนหงุดหงิดรำคาญ

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กองประสานการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม ได้รับทราบว่าข้อมูลในการดูสถานพยาบาลว่าเต็มหรือยังที่เคยดูได้มานานหลายปี ขณะนี้มีผู้สั่งให้ล็อกข้อมูลเอาไว้มิให้มีการเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต จะให้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ดูได้เท่านั้น ทำให้ผู้ประกันตน เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของบริษัท โรงพยาบาลที่เข้าโครงการประกันสังคมไม่สามารถตรวจสอบได้ จึงเป็นที่กังขากันว่าสำนักงานประกันสังคมมีลับลมคมในอะไรจึงไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ ทั้งที่ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีก็เปิดเผยมาโดยตลอด แต่พอมาเปลี่ยนเป็นรัฐบาลที่โปร่งใส กระบวนการตรวจสอบข้อมูลกลับถูกล็อกไม่ยอมให้เปิดเผย ซึ่งอาจเป็นช่องทางหากินของเจ้าหน้าที่ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนนี้ จึงต้องการให้สำนักงานประกันสังคมแสดงความโปร่งใส เลิกล็อกข้อมูลสถานพยาบาลให้ประชาชนเข้าไปดูได้ทางอินเทอร์เน็ตเหมือนเดิม

ด้านผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งให้เหตุผลไปในทางเดียวกันว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเลขผู้ประกันตนของแต่ละโรงพยาบาลที่เพิ่มและลดในแต่ละวัน โดยแต่ละโรงพยาบาลเข้าไปตรวจสอบดูแล้วมีการเพิ่มและลดที่ผิดปกติในระบบ ซึ่งถ้าโรงพยาบาลหนึ่งมียอดเพิ่ม อีกโรงพยาบาลก็จะมียอดลดลง แต่บางครั้งกลับพบว่ายอดผู้ประกันตนหายไปในระบบเป็นจำนวนมาก พออีกวันสองวันก็โผล่กลับเข้ามาในระบบเหมือนเดิม ซึ่งอาจจะเป็นการมั่วตัวเลขจนเกรงว่าจะมีผู้จับได้ จึงต้องสั่งให้มีการล็อกข้อมูลดังกล่าว.